“อาหารพื้นเมืองภูเก็ต” มีความเป็นอัตลักษณ์ส่วนตัวที่โดดเด่น
เพราะว่าเป็นอาหาร ที่ได้รับการผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมของชาวพื้นเมือง และชาวจีน
(จีนฮกเกี้ยน) เพราะชาวจีนเป็นชนกลุ่มใหญ่ที่สุดในภูเก็ต
ฉะนั้นอาหารพื้นเมืองภูเก็ต จึงมีรสชาติที่จัดแบบอาหารใต้ทั่วไป
และก็มีกลิ่นอายของความเป็นจีนสอดแทรกอยู่ด้วย
ซึ่งอาหารพื้นเมืองภูเก็ตนั้นมีความหลากหลายมาก มีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน
ที่มีรูปแบบ วิธีการปรุง และรสชาติของอาหารที่แตกต่างจากที่อื่นหลายชนิดด้วยกัน
ชาวภูเก็ตไม่นิยมรับประทานข้าวในตอนเช้า
อาหารเช้าส่วนใหญ่จะเป็น กาแฟ
และขนม สำหรับกาแฟ นิยมดื่มกาแฟดำพื้นเมืองชงแบบถุงกาแฟ
ปัจจุบันนิยมเนสกาแฟมากขึ้น เพราะสะดวกมากกว่า
นอกจากนี้ก็มีชา หรือ เซล้อง (สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า ชาซีลอน
คือชาจากศรีลังกา) ขนมที่ชาวภูเก็ตนิยมรับประทานในขณะดื่มกาแฟ
เช่น ปาท่องโก๋ ข้าวเหนียวปิ้ง
ป่าวล้าง ข้าวเหนียวสังขยา
ข้าวเหนียวหน้ามะพร้าว(หน้าฉีก) โก้ยตาล๊าม
ขนมชั้น กี่จ่าง ฮวดโก้ย บักถ่องโก้ ข้าวเหนียวหีบ ฯลฯ
ลักษณะขนมของภูเก็ตจะมีลักษณะคล้ายขนมพื้นเมืองแถบปีนัง ขนมส่วนมากประกอบขึ้นจากข้าวเหนียว
เช่น ป่าวลั้ง
ชาวปีนังเรียกว่า Pulut Udong โก้ยต่าล้าม
(Kuiey Talam) และอั้งกู๊(Ang Koo=ขนมเต่าแดง)
เป็นต้น น้ำตาลแดง มะพร้าว ใบตอง ใบเตยหอม นอกจากน้ำชา กาแฟ และขนมแล้ว ยังนิยม รับประทานขนมจีนเป็นอาหารเช้า
ขนมจีนจึงเป็นอาหารยอดนิยมที่แขกหรือนักท่องเที่ยวที่มา
ภูเก็ตจะต้องหาโอกาสทานขนมจีนภูเก็ต ซึ่งมีรสชาดแตกต่างจากจังหวัดอื่น
ปัจจุบันเป็นอาหารที่หารับประทานได้ง่าย มีร้านขายทั่วไป
และขายตลอดวัน
ในระหว่างอาหารมื้อกลางวัน กับ มื้อเย็น ประมาณ บ่าย ๒ โมง - ๓ โมงเย็น
ชาวภูเก็ตนิยมดื่ม น้ำชา หรือกาแฟ
พร้อมขนมหรืออาหารว่างอีกครั้ง อาทิ
หมี่ไทย ฮูแช้
ปลาแนม ปอเปี๊ยะ โอต้าว หมี่ไทย โอเอ๋ว
สำหรับอาหารค่ำของชาวภูเก็ตถือว่าเป็นมื้อหนักจะเริ่มประมาณทุ่มถึง
๒ ทุ่ม
วัฒนธรรมในการกินนั้น ชาวภูเก็ตมีมารยาทที่ดีของการรับประทานอาหาร
ที่แสดงออกถึงความเคารพต่อผู้ใหญ่ หรือการฝึกให้มีความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือ
ผลไม้ ใด ๆ ก็ตามเด็ก ๆ
จะได้รับส่วนแบ่งสำหรับตัวเอง เท่า ๆ กัน
ที่เหลือจะเป็นของผู้ใหญ่ เด็กจะรับประทานเฉพาะส่วนของตนเท่านั้น
จะกินอาหารหรือผลไม้นั้นหมดโดยไม่แบ่งไว้ให้ผู้ใหญ่ไม่ได้เด็ดขาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น